ลาลับนานแล้วตำนานเพลงแรกก็ดังเปรี้ยงจากไปเมื่อหลายปีก่อนถ้าใครเกิดทันปี2522และชอบฟังเพลงแนวลูกทุ่งคงทราบดีว่ามีเพลงดังเพลงหนึ่งที่ขับร้องโดยนักร้องหน้าใหม่และแต่งโดยนักแต่งเพลงหน้าใหม่ในพ.ศนั้นนั่นก็คือเพลงน้ำตาตังเกแต่งโดยอรุณยอดปรีดาครับร้องโดยจตุพรเพชรสยามกว้างออกไปแสนยไกลถิ่นไม่เจอะแผ่นดินหากินกลางทะเลเปลี่ยวอุราแวาเวเขาเรียกตังเกเร่จับปลานอกจากจะดังตามคลื่นวิทยุแล้วเพลงน้ำตาตังเกของจตุพรเพชรสยามก็ยังได้รับความนิยมสูงลิ่ว
ในหมู่ทหารที่ต้องวิ่งออกกำลังกายทุกเช้าเย็นโดยเฉพาะเหล่าทหารเรือจะชื่นชอบและใช้เพลงนี้ร้องบ่อยๆเป็นพิเศษโดนคลื่นโดนลมโถมกระหน่ำบางครั้งเรือจมควำก็ต้องน้องน้ำตาไม่มีเวลาพักพนจากแม่กลองละลองไปกระบี่3วันอีกทีไปอยู่ที่ชุมพลกลับชนกลับจันละปากน้ำก่อนแวะจอดนครย้อนสงขลา15วันลถึงได้เทียบท่าออกจากนารากลับมามหาชัยจพี่คิดถึงเจ้าเกร็ดที่น่าสนใจเกี่ยวกับเพลงนี้มีหลายประการเป็นต้นว่าผู้ร้องเพลงน้ำตาตังเกแทนที่จะเป็นคนใต้แต่กลับเป็นชาว
สุรินทร์ถิ่นอีสานใต้แต่เคยเป็นตังเกอยู่พักหนึ่งและต่อมาก็มีภรรยาเป็นคนใต้อีกอย่างก็คือจตุพรเพชรสยามไม่เคยเป็นนักร้องมาก่อนเดิมทีเขาเป็นกุ๊กเป็นเชฟทำอาหารตามโรงแรมเพลงน้ำตาตังเกคือเพลงแรกที่เขาบันทึกแผ่นเสียงและกลายเป็นเพลงแจ้งเกิดให้เขาทันทีรายละเอียดมีดังต่อไปนี้ครับจตุพรเพชรสยามมีชื่อจริงว่าไพศาลมลิซ้อนเป็นลูกคนที่3ในจำนวนพี่น้องทั้งหมด6คนของพ่อสุเทพแม่จินดามลิซ้อนซึ่งเป็นชาวบ้านหนองเหล็กตำบลเมืองลีง
อำเภอจอมพระจังหวัดสุรินทร์คุณพ่อรับราชการเป็นครูใหญ่ส่วนคุณแม่ก็เป็นครูเช่นกันไพศาลมลิซ้อนจบการศึกษาชั้นมศ3จากโรงเรียนจอมพระประชาสรรคตำบลจอมพระอำเภอจอมพระจังหวัดสุรินทร์ระหว่างที่เรียนอยู่นั้นนอกจากเป็นคคชอบร้องเพลงแล้วเขายังโดดเด่นด้านกีฬาคือได้เล่นฟุตบอลตำแหน่งผู้รักษาประตูถึงขั้นเคยติดทีมฟุตบอลจังหวัดสุรินทร์ด้วยนอกจากนี้เขายังชอบชกมวยและเคยชกมวยหลายครั้งเล่ากันว่าด้วยความที่เขาทำได้ดีทั้งการชกมวยและการร้องเพลงในงานวัดงานหนึ่งหลังจาก
เขาประกวดร้องเพลงแล้วก็มาขึ้นต่อยมวยในอีกเวทีหนึ่งในงานเดียวกันหลังจากเรียนจบมศ3ไพศาลมลิซ้อนก็ไปสอบเข้าโรงเรียนทหารอากาศตามที่ใจเขาใฝ่ฝันแต่ปรากฏว่าเขาสอบไม่ผ่านครั้นจะไปสอบเป็นครูก็รู้สึกว่าไม่ถนัดเขาจึงตัดสินใจไม่เรียนต่อหันมาทำงานเลี้ยงตัวดีกว่าโดยแรกเริ่มเขาไปทำงานเป็นคนงานลกอวนอยู่แถบสงขลาปัตตานีได้ปีเศษนี่คือชีวิตตังเกที่เขาเคี่ยวกรำจากประสบการณ์ตรงจากนั้นก็ไปรับจ้างปลูกมันสัมปะหลังอยู่3เดือนแล้ว
เปลี่ยนแนวไปช่วยทำอาหารที่พัทยาพอทำอาหารได้คล่องขึ้นเขาก็ยกระดับเป็นกุ๊กอยู่ที่จังหวัดเชียงใหม่อยู่ไม่นานก็ย้อนกลับมาทำงานเป็นเชฟที่พัทยาอีกครั้งก่อนจะลงเอยเป็นเชฟประจำอยู่ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์ย่านสุขุมวิทกรุงเทพฯซึ่งโรงแรมนี้เองนักร้องชื่อดังแสงสุรีรุ่งโรจนเคยมาทำงานประจำอยู่ที่โรงแรมแอมบาสเดอร์นี้เองที่หนุ่มไพศาลมลิซ้อนซึ่งชอบร้องเพลงเล่นอยู่บ่อยๆจนพรรคพวกเห็นว่าเสียงดีลีลาเข้าท่าได้พบกับผู้สนับสนุนให้เขา
ได้เป็นนักร้องสมใจนั่นก็คือคุณสำอางที่ทำงานร่วมกันโดยได้เพลงจากอรุณยอดปรีดาซึ่งเป็นนักแต่งเพลงหน้าใหม่ในช่วงนั้นการบันทึกแผ่นเสียงของนักร้องหน้าใหม่เป็นการลงทุนทำกันเองผู้ที่เรียบเรียงเสียงประสานให้ก็คือครูสมัครวงสาโรจเพลงแรกที่ประเดิมตัดแผ่นเสียงออกมาก็คือเพลงน้ำตาตังเกแต่งโดยอรุณยอดปรีดาและหนุ่มไพศาลมลิซ้อนได้รับการตั้งชื่อนักร้องว่าจตุพรเพชรสยามพอได้แผ่นเสียงออกมาชาวคณะก็วางแผนโปรโมทกันเองโดยมีคุณพนมสุงแสง
นักจัดรายการวิทยุสถานีวิทยุญานเกราะ540บางกระบือกรุงเทพฯซึ่งคุ้นเคยกับแสงสุรีรุ่งโรจผู้เคยทำงานอยู่โรงแรมแอมบาสเดอร์มาก่อนช่วยวิ่งเต้นและเปิดเพลงน้ำตาตังเกให้อย่างเต็มที่ปรากฏว่าเพลงนี้กลายเป็นเพลงดังได้รับความนิยมอย่างสูงในปี2522โดยเฉพาะเหล่าทหารเรือหรือแม้กระทั่งเหล่าทหารอื่นๆก็ชอบนำเพลงนี้ไปให้ทหารใหม่และทหารเก่าฝึกร้องขณะออกกำลังกายทุกเช้าเย็นกวงออกไปแสนจะไกลถิ่นไม่เจอะแผ่นดินหากินกลางทะเลเปลี่ยวอุราแสนจวาเวเขา
เรียกตังเกเเร่จับระโดนคลื่นโดนลมโถมกระหน่ำบางครั้งเรือจมคว่ำก็ต้องนองน้ำตาความนิยมที่สูงริ่วของเพลงน้ำตาตังเกขับร้องโดยจตุพรเพชรสยามทำให้ไปเข้าตาหมอเอื้ออารีนักปั้นชื่อดังจากแผ่นเสียงที่ตอนแรกทำกันเองก็ได้เปลี่ยนมาเป็นตราแผ่นเสียงของหมอเอื้อเมื่อวันที่5กันยายนปี2522ความโด่งดังขึ้นมาอย่างพรวดพราดของเพลงน้ำตาตังเกส่งผลให้จตุพรเพชรสยามได้ตั้งวงดนตรีขึ้นในปี2523เพื่อเรินสายรับงานทางภาคใต้ซึ่งอุดมไปด้วยแฟนเพลงชาว
ตังเกโดยใช้วิธีการเช่าเครื่องเสียงรถบัสรถ6ล้อและอุปกรณ์ที่จะต้องใช้ในการเดินสายทุกอย่างแต่น่าเสียดายที่วงดนตรีของจตุพรเพชรสยามยืนระยะอยู่ได้ไม่นานนักก็ต้องล้มวงเพราะประสบปัญหาขาดทุนรายรับได้ไม่ดีเท่ารายจ่ายที่ต้องเช่าเขาแทบทุกอย่างนอกจากเพลงตังเกแล้วจตุพรเพชรสยามได้บันทึกแผ่นเสียงไว้อีกหลายเพลงเช่นเพลงเสียงครวญจากชาวนาแต่งคำร้องทำนองโดยครูอรุณยอดพีาดนตรีโดยครูสมัครวงสาโรจอกเอชาวนาไทย ่าดำกล้าทำนาไม่ได้วางเว้นเจ็บ
อุราน้ำตากระเซ็นความจำเป็นโหมีใครเห็นหัวอกเอาบุญเพลงฝากเพลงกล่อมนางเพลงฝนลาหน้าหนาวเพลงหนาวแล้วแฟนเพลงเสน่ห์สาววัยรุ่นเพลงเอื้องอีสานอีสานแดนไทยหากใครได้ไปบ่ลืมเสียงแคนแสนปลื้มดูดดื่มอ้ายลืมบ่หลงและเพลงกาคู่กาเป็นต้นอย่างไรก็ตามนอกจากเพลงตังเกที่โด่งดังชนิดแทบไม่ทันตั้งตัวแล้วเพลงอื่นๆของจตุพรเพชรสยามก็ไม่ค่อยได้รับความนิยมในระดับใกล้เคียงกันนักหลังจากวงดนตรีของเขาต้องล้มเลิกและเพลงอื่นๆที่ออกตามมาไม่ค่อยเข้าเป้านัก
ช่วงหนึ่งจตุพรเพชรสยามจึงถอยห่างจากวงการเพลงไปเป็นพ่อครัวอาหารยุโรปที่ซาอุดิอาระเบียอยู่ถึง3ปีเมื่อเดินทางกลับไทยเขาก็ยังเอาดีกับงานด้านการปรุงอาหารโดยเป็นเชฟอาหารยุโรปประจำโรงแรมในหลายๆจังหวัดจวบจนใกล้วาระสุดท้ายของชีวิตเนื่องจากจตุพรเพชรสยามเป็นนักดื่มตัวจกาศคนหนึ่งและไม่ค่อยชอบทานข้าวนักทำให้เขาจากโลกนี้ไวไปสักหน่อยจตุพรเพชรสยามเสียเสียชีวิตจากโลกสุราาเรื้อรังในวัย53ปีเมื่อราวๆปี2545แต่ก็ได้ฝากผลงานเพลงน้ำตาตังเกและเพลงอื่นๆไว้
ให้แฟนเพลงได้ฟังสืบไปออกจากนร้ากลับมามหาชัยใจพี่คิดถึงเจ้าโอแม่เอวบางน้องนางไม่แลงนั่งรถติดแอร์เสียงแหวเชียวนเจ้าพอได้กินแกงหมูลืมปลาทูเหม็นข้าวน้องลืมเรือลำเก่าเคยพาเจ้าออกเลกนี่แลละนาเขวนารี15วันเท่านี้แม่ก็ทำเซเพลเลิกกันทีนะแม่ร้อยเล่เหมือนกับทะเลไม่อิรักใครคืนพระวงศ์แล้วต้องอกหักเธอไม่รักเธอไม่สนก็ไอ้คนอย่างเราพวกเราชาวตังเกหัวดีChannelขอขอบคุณข้อมูลอ้างอิงจากนิตยสารอนุทินคู่ชีวิตดารานักร้อง
ฉบับเดือนตุลาคมปี2522ขอบคุณภาพและข้อมูลจากFacebookคุณสอแพรกม่วงขอบคุณภาพและเพลงประกอบที่มีผู้ลงไว้ขอบคุณมากครับ