เลือดออกในสมอง (intracerebral hemorrhage) เป็นภาวะหนึ่งของโรคหลอดเลือดสมอง เกิดขึ้นเมื่อเลือดไหลเข้าไปในเนื้อสมอง ทำให้เกิดการบวม และเกิดก้อนเลือด (hematoma) ซึ่งเพิ่มความดันในสมองและทำลายเซลล์สมอง ในบางกรณีอาจถึงขั้นทำให้หลอดเลือดแตกและเสียชีวิตได้
ผู้ป่วยที่มีภาวะเลือดออกในสมองอย่างรุนแรงมีอัตราการเสียชีวิตสูงมาก โดยโอกาสรอดขึ้นอยู่กับขนาดของก้อนเลือด ยิ่งก้อนใหญ่ ความเสี่ยงเสียชีวิตหรือพิการถาวรยิ่งสูง การรักษาส่วนใหญ่เป็นเพียงการควบคุมไม่ให้ก้อนเลือดขยายและลดภาวะแทรกซ้อน มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่สามารถฟื้นตัวและกลับมาใช้ชีวิตได้
เตือนพฤติกรรมเงียบๆ ที่เสี่ยงทำให้คนรุ่นใหม่เสี่ยงภาวะเลือดออกในสมองและโรคหลอดเลือดสมอง เนื่องจากมีพฤติกรรมเสี่ยงโดยไม่รู้ตัว เช่น
- นอนดึกและพักผ่อนไม่เพียงพอ: พบได้บ่อยในกลุ่มคนรุ่นใหม่ โดยเฉพาะผู้ที่ทำงานบริการ, งานด้านไอที หรือทำงานกะกลางคืน การนอนดึกทำให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่ทำให้หลอดเลือดหดตัว ส่งผลให้ความดันโลหิตสูง และเป็นภาระกับหัวใจและสมอง
- ความเครียดเรื้อรัง: จากแรงกดดันในชีวิตประจำวัน ทั้งจากการเรียน การทำงาน หรือเรื่องส่วนตัว ส่งผลให้ร่างกายผลิตฮอร์โมนที่มีผลต่อหัวใจและหลอดเลือด หากเป็นเรื้อรังจะเพิ่มความเสี่ยงต่อโรคหลอดเลือดสมอง
- การกินอาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ: อาหารจานด่วน, ของทอด, ของหวาน และอาหารที่มีโซเดียมสูง ล้วนเป็นสาเหตุหลักของโรคอ้วน ไขมันในเลือดสูง เบาหวาน และความดันโลหิตสูง ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงโดยตรงของโรคหลอดเลือดสมอง
- การไม่ออกกำลังกาย: การนั่งนานและขาดการเคลื่อนไหว ทำให้ระบบไหลเวียนเลือดทำงานได้ไม่ดี และส่งผลต่อหัวใจและหลอดเลือดสมองโดยตรง
- การใช้สารกระตุ้น: เช่น การสูบบุหรี่ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป หรือการใช้สารเสพติด ล้วนทำลายผนังหลอดเลือด เพิ่มโอกาสเกิดการอุดตันหรือหลอดเลือดแตก
อย่าปล่อยให้ “วัยหนุ่มสาว” ต้องกลายเป็นบทเรียนราคาแพง อย่าปล่อยให้ความอ่อนเยาว์เป็นข้ออ้างในการละเลยสุขภาพ….. ชีวิตของถังถังคือบทเรียนเตือนใจว่าโรคหลอดเลือดสมองสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน โดยเฉพาะหากยังใช้ชีวิตแบบไม่ระวัง ถึงเวลาแล้วที่คนรุ่นใหม่ต้องหันมาใส่ใจตัวเองมากขึ้น ก่อนที่จะสายเกินไป ดังนั้น เพื่อปกป้องตัวเองจากภาวะเหล่านี้ โดยเฉพาะในวัยที่ยังดูแข็งแรง ควรเริ่มต้นดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้